เครื่องประดับหนุนดวงดี สำหรับชาว 12 ราศี

เครื่องประดับน้ำโชค ของแต่ละราศี ใน 12 ราศี เสริมดวงเครื่องประดับมงคล

ราศีมังกร

      สีที่เหมาะกับชาวราศีมังกรคือสีแดง หากคุณอยากเฮง ปัง รับทรัพย์รัว ๆ แนะนำให้หาเครื่องประดับที่มีสีแดงใส่ติดตัวไว้เสมอค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสีแดงเข้ม แดงสด ได้หมดเลย ลองเลือกเป็นอัญมณีอย่าง “โกเมน” หรือ “ทับทิม” จะดีจ้า นอกจากจะเฮงแล้ว ยังช่วยปรับให้ลุคดูแพงไปอีก

ราศีกุมภ์

      ชาวราศีกุมภ์ผู้รักอิสระจะถูกโฉลกกับสีม่วง เพราะฉะนั้นหากคุณเลือกเครื่องประดับที่เป็นสีม่วงอย่าง “หินอเมทิสต์” รับรองว่าจะช่วยส่งเสริมให้คุณดูสง่าผ่าเผย มีบารมี ใครเห็นเป็นต้องเกรงขามแทบทุกราย ลองใส่ไปออกงานสังคมหรือดีลงานใหญ่ ๆ ดู รับรองไม่พลาดแน่นอน

ราศีมีน

      เนื่องจากเป็นคนอารมณ์ร้อน จิตใจอ่อนไหวง่าย เครื่องประดับที่ชาวราศีมีนควรเลือกใช้คือ “หยก” หรือมรกตสีเขียว นอกจากจะเป็นสีที่มองแล้วสบายตา ยังเป็นอัญมณีที่เหมาะกับทุกสีผิวด้วย และยังมีความเชื่อด้วยนะคะว่าหากสวมใส่หยก จะนำมาซึ่งโชคลลาภและความมั่งมีค่ะ

ราศีเมษ/ราศีพฤษภ

      เครื่องประดับที่เหมาะกับชาวราศีเมษและราศีพฤษภผู้แข็งแกร่ง ทนทาน และกล้าหาญ ต้อง “เพชร” เท่านั้นจ้า นอกจากจะเริศหรูดูแพงแล้ว ยังมีความหมายที่ดีและเป็นมงคลด้วยนะคะ ยังไงก็ลองเลือกกันดูดี ๆ นะคะ เพชรมีหลายเกรดมาก ๆ สามารถเลือกซื้อได้ตามกำลังทรัพย์และความชอบเลยค่ะ

ราศีเมถุน

      ด้วยความขี้เบื่อ ไม่ชอบอะไรที่ซ้ำ ๆ เดิม ๆ ดังนั้นอัญมณีที่เหมาะกับชาวราศีนี้คือ “พลอยเจ้าสามสี” นั่นเอง โดยสามารถเปลี่ยนสีได้เองตามแสงที่ตกกระทบ ซึ่งประกอบไปด้วยสีเขียวอมน้ำเงิน สีเขียวมรกต และสีแดงหรือแดงอมม่วง นอกจากนี้ยังมีความเชื่อด้วยว่าเจ้าสามสีเป็นหินเรียกทรัพย์ ดังนั้นจึงเป็นที่นิยมกันมากในการนำมาทำเครื่องประดับ

ราศีกรกฎ

      อัญมณีที่เหมาะกับชาวกรกฎผู้อ่อนหวานอ่อนโยนต้องเป็น “มุกดาหาร” (Moonstone) ที่มีสีขาวนวลบริสุทธิ์เหมือนดวงจันทร์เท่านั้น ใส่แล้วรับรองเฮง! ปัง! เริศไม่มีร่วงแน่นอน แถมใส่แล้วยังมีเสน่ห์ ออร่าคุณหนูคุณนายจับสุด ๆ

ราศีสิงห์

      ด้วยความหัวแข็งของชาวราศีสิงห์ จึงต้องเลือกอัญมณีที่มีเอกลักษณ์อย่าง “บุษราคัมสีเหลือง” หรือ “ไพฑูรย์ตาแมว” พกติดตัวไว้จะช่วยลดความวู่วามใจร้อนลงได้ และสีเหลืองยังเป็นสีที่มองแล้วดูอบอุ่นด้วย ดังนั้นชาวราศีสิงห์ที่ชอบใจร้อน หัวร้อนบ่อย ๆ แนะนำเลยค่ะ

ราศีกันย์

      สีนำโชคที่เหมาะกับชาวราศีกันย์คือสีแดง แต่หากไม่อยากดูแก่หรือดูโตเกินวัย แนะนำต้องเป็นสีแดงสลัวอย่าง “เพทาย” หรือ “ไพลิน” จะช่วยเสริมความเฮงและความปังให้กับคุณได้อย่างแน่นอน แถมยังช่วยขับผิวให้ดูขาวผ่องขึ้นด้วยน้า

ราศีตุลย์

      หากพูดถึงอัญมณี สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือ “โอปอล์” เนื่องจากเป็นอัญมณีที่มีความสวยงาม มีเอกลักษณ์ และมีหลากหลายสี แต่ที่เราแนะนำก็คือสีขาวและสีฟ้าค่ะ เพราะเป็นสีที่ถูกโฉลกและเป็นสีประจำตัวของชาวราศีตุลย์นั่นเอง แต่แอบบอกนิดนึงนะคะ โอปอล์เป็นอัญมณีที่ค่อนข้างหายาก หากไม่สามารถหาได้ แนะนำเลือกดูเป็น “พลอยไพลินสีฟ้า” (Blue Sapphire) ก็ได้จ้า

ราศีพิจิก

      ราศีพิจิกก็เป็นอีกหนึ่งราศีที่มีสีแดงเป็นสีประจำตัวหรือสีถูกโฉลกค่ะ เนื่องจากเป็นคนกล้าหาญและชอบความท้าทายอยู่เสมอ ดังนั้นจึงควรเลือกอัญมณีที่เป็นสีแดง จะเป็น “ไพลิน” “ทับทิม” หรือ “โกเมน” ได้หมดเลยค่ะ สวย ๆ เริศ ๆ รับความปังกันไปแบบรัว ๆ เลยค่า

ราศีธนู

      อีกราศีหนึ่งที่ชอบใจร้อน หัวร้อน ต้องยกให้ชาวราศีธนูเลยค่ะ ดังนั้นแนะนำให้ลองหาหินหรือเครื่องประดับที่เป็นโทนสีที่ดูแล้วสบายตาอย่าง “อาพิซ ลาซูลี” มาสวมใส่หรือติดตัวไว้จะดีค่ะ นอกจากจะช่วยลดความใจร้อนของคุณลงได้แล้ว ยังเป็นหินที่มีความเก๋และมีเอกลักษณ์สุด ๆ ไปเลยล่ะค่ะ

ขอบคุณเนื้อหาจาก
https://www.sanook.com/horoscope/179465/

คำทำนาย เหตุผลที่ถูกนอกใจของแต่ละกรุ๊ปเลือด

มาดูกันค่ะ ว่าอุปนิสัย พื้นฐานของแต่ละกรุ๊ปเลือดทำนายดวงได้อย่างไร เป็นเหตุเป็นผลทางวิทยาศาสตร์ ว่าแต่ละกรุ๊ปเลือดจะมีอุปนิสัยอย่างไร ที่ทำนาย การถูกนอกใจได้ไม่ยาก

กรุ๊ปเอ

คนกรุ๊ปเอที่มักมีนิสัยขี้กังวล เป็นห่วงไปซะทุกอย่าง เมื่อมีแฟนก็อยากจะรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับคนที่ตัวเองรักไปซะหมด หากเมื่อไรที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันละก็ ชาวกรุ๊ปเอก็จะคอยตามเช็คอย่างละเอียดว่าไปไหนทําอะไรอยู่กับใคร คอยระแวงการคบค้าสมาคมของคนรัก และลึกๆในใจของชาวกรุ๊ปเอนั้นก็อยากให้คนรักเลิกคบกับเพื่อนผู้หญิงไปเลยแหละ เพราะเป็นซะอย่างนี้แหละทำให้คนรักรู้สึกอึดอัดที่ถูกระแวงและไม่มีอิสระ สุดท้ายคนรักนอกใจ

กรุ๊ปบี

ชาวกรุ๊ปบีที่ค่อนข้างเอาแต่ใจ อารมณ์แปรปรวน เวลานัดไปเที่ยวกัน อยู่ๆก็มาบอกว่าเปลี่ยนใจไม่อยากไปละ หรือปากบอกว่าไม่อยากเจอ แล้วก็โผล่มาหาแล้วบอกว่า อยู่ๆก็คิดถึงเลยมาหา เป็นต้น ตอนรักกันใหม่ๆก็ทนได้นะ แต่พอนานเข้าคนรักก็คงเริ่มหมดความอดทนกับนิสัยที่เอาแต่ใจ สุดท้ายคนรักนอกใจ

กรุ๊ปโอ

ชาวกรุ๊ปโอที่ปกติแล้วจะเป็นคนจริงจัง ขยันขันแข็ง แต่พออยู่กับคนรักก็จะกลายเป็นคนขี้อ้อนขึ้นมาทันที อยากอยู่ใกล้ๆอยากสัมผัสตัวของคนรัก เมื่ออยากเจอก็ต้องได้เจอทันทีบางทีก็สร้างความลำบากใจให้กับคนรักไม่น้อย แรกๆคนรักก็คงรู้สึกดีใจที่ได้เห็นมุมน่ารักขี้อ้อนของชาวกรุ๊ปโอที่ใครๆไม่เคยได้เห็น แต่นานวันก็เริ่มเยอะจนเริ่มเอียน สุดท้ายคนรักนอกใจ

กรุ๊ปเอบี

คนกรุ๊ปเอบีผู้มีโลกส่วนตัวสูง แม้จะมีคนรักก็ยังคงความเป็นตัวของตัวเองสูงเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และให้ความสำคัญกับเรื่องของตัวเองก่อนเรื่องคนรักเสมอ เช่น เวลานัดเดทกัน หากชาวกรุ๊ปเอบีอยากจะพักผ่อนอยู่คนเดียวก็จะเลือกที่จะปฏิเสธการเดทไป หรือแม้แต่ถ้ากำลังหมกหมุ่นอยู่กับสิ่งที่สนใจอยู่ละก็ คนรักเหรอ? มาทีหลังเรื่องส่วนตัวอยู่แล้ว เพราะแบบนี้แหละ สุดท้ายคนรักนอกใจ

ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.sanook.com/horoscope/179473/

วิธีลดความอ้วน ยางซูบิน ลดได้กว่า 20 กิโลใน 10 เดือน

ช่วงหลังดูว่า ยาง ซูบิน จะใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทั้งออกกำลังกาย และกินอาหารที่มีประโยชน์ จนทำให้ตอนนี้เธอมีรูปร่างที่ผอมลงจนจำแทบไม่ได้

เป็นอีกหนึ่งสาวสายกินที่ลุกขึ้นมาดูแลสุขภาพจนน้ำหนัดลดลงไปกว่า 23 กิโล สำหรับ ยาง ซูบิน เน็ตไอดอลสายกินชาวเกาหลีใต้ ที่มีแฟนคลับทั้งในและต่างประเทศรวมถึงคนไทยหลายคนยกให้เธอเป็นขวัญใจ ทำคลิปกินอะไรก็หิวตาม!

ติดตามดูวิธีการลดน้ำหนักให้
https://www.sanook.com/women/160973/

โชเซ มูรินโญ โกนหัวแล้ว ฟอร์มคุมทีมจะแจ่มมาก

โชเซ มูรินโญ โกนผม ผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ จัดการเปิดตัวในโฉมใหม่ด้วยการโกนหัวเสียโล่งเตียน หลังไปตัดผมที่ร้านหรู ฮัคส์ ออสการ์ ที่ถนนคิงส์โร้ด ย่านเชลซี ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน ก่อนโพสต์รูปโชว์ลุคใหม่ของตนเองในอินสตาแกรม

โดยครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ มูรินโญ โกนหัวของเขา ซึ่งจากสถิติบอกว่าเขาสามารถทำผลงานคุมทีมได้ดียามที่โกนหัวแบบนี้ด้วย นั่นทำให้แฟนบอลไก่เดือยทองอดยิ้มไม่ได้

ในฤดูกาล 2006/07 เจ้าตัวคุมเชลซีชนะถึง 9 จาก 11 นัดแรกในพรีเมียร์ลีก หลังกุนซือโปรตุกีสตัดทรงนี้ ขณะที่เมื่อฤดูกาล 2013/14 ตอนที่เขากลับมาคุมเชลซีรอบสองก็ชนะถึง 8 จาก 10 เกมลีกในช่วงเวลานั้น

ที่มา: มูริญโญ่ โกนหัว

ข่าวราคาทองคำ 27 มกราคม 2563 (ภาคเช้า)

ราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําทะยานขึ้นจากความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เริ่มขึ้นใน ประเทศจีน หลังจากล่าสุดพบผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวเป็นรายที่ 5ในสหรัฐ

นอกจากนี้ยังมีรายงานประเทศที่พบผู้ติดเชื้อนอกจากจีนและสหรัฐอีก 9 ประเทศ อาทิ ไทย, สิงคโปร์, ฝรั่งเศส, มาเลเซีย, ญี่ปุ่น, เวียดนาม, เกาหลีใต้, เนปาล และออสเตรเลีย ทําให้ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสดังกล่าวแล้ว 80 คนจากจํานวนผู้ติดเชื้อกว่า 2,744 คน แม้ว่าจีนจะพยายามอย่าง หนักในการควบคุมการระบาด แต่ความวิตกว่าสถานการณ์การระบาดของโรคอาจยิ่งเลวร้ายลงหลังจากผ่านพ้นเทศกาลตรุษจีน ที่ชาวจีนจํานวนหลายร้อยล้านคนจะเดินทางท่องเที่ยว ทั้งภายในจีน และในต่างประเทศ เป็นปัจจัยกดดันสินทรัพย์เสี่ยงและกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคํา ประกอบกับทองคําได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้า หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ ลงนามในประกาศเพื่อปรับขึ้นภาษีนําเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าอีก 25% และขึ้นภาษีผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียมอีก 10% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 8 ก.พ.นี้ อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังการเปิดเผยดัชนี PMI รวมภาคการผลิต และภาคบริการที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน รวมถึงแรงซื้อดอลลาร์ที่อยู่ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยยังเป็นปัจจัยที่สกัดช่วงบวกของราคาทองคําเอาไว้ สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ และเกาะติดรายงานการแพร่ระบาดของ ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่อย่างใกล้ชิด
ที่มา ylgbullion.co.th

ข่าวราคาทองคำ 9 มกราคม 2563 (ภาคบ่าย)

ราคาทองคําช่วงเช้าวันนี้ เริ่มมีความผันผวนลดลง เหวี่ยงตัวในกรอบระหว่าง 1,553.60 – 1,561.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่สถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางเริ่มผ่อนคลายลง หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ แถลงการณ์ระบุว่า จะไม่ใช้มาตรการทางทหารตอบโต้การโจมตีด้วยจรวดจากอิหร่านต่อฐานทัพสหรัฐในอิรักในช่วงเช้ามืดวันก่อนหน้า โดยสหรัฐจะใช้มาตรการควํ่าบาตรต่ออิหร่านแทน ท่าทีที่อ่อนลงของผู้นําสหรัฐ ช่วยกระตุ้นแรงซื้อเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง ส่งผลให้ทองคําถูกขายทํากําไรหลังจากพุ่งแรงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังต้องจับตาสถานการณ์ระหว่างสหรัฐ-อิหร่านอย่างต่อเนื่อง เพราะประเด็นการเมืองระหว่างประเทศมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่ ธนาคารโลก (World Bank) ออกมาเตือนว่า ปี 2563 เศรษฐกิจทั่วโลกยังคงเปราะบางต่อความไม่แน่นอนทางการค้าและความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ ส่งผลให้นักลงทุนยังรอเข้าซื้อทองคําเมื่อราคาปรับตัวลงเพื่อป้องกันความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน ช่วยจํากัด Downside ของราคาทองคําในระยะนี้ ด้านแนวโน้ม Gold Spot ประเมินว่า หลังจากราคาทิ้งตัวลงส่งผลให้มุมมองเชิงบวกลดลง ทั้งนี้ ระยะสั้นหากราคาสามารถทรงตัวและพยายามสร้างฐานราคาเหนือแนวรับบริเวณ 1,553-1,552 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ส่งผลให้แรงซื้อและราคาทองอาจฟื้นตัวขึ้นในช่วงสั้น แต่แรงซื้ออาจไม่มากนักเนื่องจากสถานการณ์อิหร่าน-สหรัฐเริ่มคลี่คลาย โดยราคาอาจกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบเพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาชี้นํา สําหรับวันนี้ประเมินแนวต้านระยะสั้นในโซน 1,567-1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนํากลยุทธ์การลงทุน เน้นการซื้อขายทํากําไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยเข้าซื้อเมื่อตลาดปรับตัวลงมาไม่หลุดแนวรับโซน 1,553-1,552 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่การเปิดสถานะขายอาจพิจารณาในโซน 1,567-1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากราคายืนเหนือ 1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์)

ที่มา ylgbullion.co.th

ข่าวราคาทองคำ 4 กันยายน 2562 (ภาคเช้า)

ราคาทองย้อนหลังเมื่อวาน ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับหนุนจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • ความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐหลังภาษีนําเข้ารอบใหม่ระหว่างกันเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ จีนและสหรัฐกําลังประสบความยากลําบากในการกําหนดการเจรจาการค้าขณะที่วานนี้ ทรัมป์ทวีตกดดันจีนว่า ให้รีบทําข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ ไม่อย่างนั้นจะยิ่งลําบากมากขึ้นหากเขาชนะการเลือกตั้งในปีหน้าอีกสมัย
  • ความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐ หลังจาก ISM ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 49.1 ในเดือนส.ค. ซึ่งหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี และเป็นระดับตํ่าสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2016

สถานการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงจนกดดันให้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 285.26 จุด พร้อมกับกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้างทั้งเงินเยน, พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมไปถึงทองคํา

ส่วนความคืบหน้าล่าสุดของ Brexit วานนี้ พรรคฝ่ายค้านของอังกฤษประสบความสําเร็จในการลงมติเข้าควบคุมกระบวนการนิติบัญญัติของรัฐสภา ทําให้วันนี้จะมีการอภิปรายร่างกฎหมายป้องกัน Brexit โดยปราศจากข้อตกลงซึ่งเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําเพิ่มขึ้น 11.73 ตัน สำหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผย Beige Bookของสหรัฐ ที่มา ylgbullion.co.th

ข่าวราคาทองคำ 30 กรกฎาคม 2562 (ภาคเช้า)

ราคาทองคําวานนี้ ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยยังคงมีแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคําจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตรา ดอกเบี้ย ในการประชุมที่จะเสร็จสิ้นลงในช่วงกลางดึกของวันพรุ่งนี้ สะท้อนจาก FedWatch ของ CME ที่บ่งชี้ว่า บรรดาเทรดเดอร์คาดการณ์ว่า มีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค.โดยใน 100% นั้นถูกแบ่งเป็นคาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้ราว 75% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ค. ขณะที่อีก 25% คาดว่าจะลดดอกเบี้ยมากถึง 0.50% ในเดือนก.ค. อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของราคายังคงอยู่ในกรอบจํากัดเช่นกัน เพราะทองคําได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ หลังจากค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับตํ่าสุดรอบ 28 เดือนท่ามกลางความวิตกว่าอังกฤษอาจแยกตัวจากสหภาพยุโรป(EU)โดยปราศจากข้อตกลง

นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังในการเข้าสถานะก่อนจะทราบความชัดเจนเกี่ยวกับเฟด รวมไปถึงผลการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่จะเริ่มเปิดฉากในวันนี้ ด้านกองทุนSPDR ถือครองทองคําเพิ่ม +6.75 ตัน

สําหรับวันนี้ ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) และความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ รวมไปถึงการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อาทิ ดัชนี PCE, การใช้จ่ายและรายได้ส่วนบุคคล, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB

ที่มา ylgbullion.co.th

 

ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 สิงหาคม 2562

ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 สิงหาคม 2562 ได้ที่ >> https://www.sanook.com/news/7867023/

อัพเดตข่าวหวย >> sunkate.com

วิเคราะห์ราคาทองคำ 7 มิถุนายน 2562 (ภาคเช้า)

ราคาทองย้อนหลัง ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นอกจากราคาทองคําจะได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)แล้วนั้น ปัจจัยล่าสุดที่หนุนราคาทองวันนี้ คือ การแข็งค่าของสกุลเงินยูโร หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมตามคาด แต่ที่สําคัญคือ ECB ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของยูโรโซน สู่ระดับ 1.3% ในปีนี้ จากเดิมที่ระดับ 1.2% ส่วนในปีหน้า ECB คาดการณ์เงินเฟ้อที่ระดับ 1.4% จากเดิมที่ระดับ 1.5% ขณะที่ประธาน ECB ยืนยันว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะไม่ประสบภาวะเงินฝืด และมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถอยหลัง สถานการณ์ดังกล่าวหนุนให้สกุลเงินยูโรแข็งค่าจนกดดันให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ซึ่งเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อราคาทองคํา อย่างไรก็ดีอุปสรรคในการปรับขึ้นของราคาทองคํายังเป็นการทะบายขึ้นต่อเนื่องของตลาดหุ้นสหรัฐ ที่ยังคงได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมไปถึงรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐอาจจะเลื่อนการเก็บภาษีนําเข้าสินค้าจากเม็กซิโก จึงเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย สําหรับราคาทองวันนี้จับตาการเปิดเผยตัวเลขสําคัญในตลาดแรงงานของสหรัฐ เช่น รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง,อัตราการว่างงาน และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร

ที่มา ylgbullion.co.th