ราคาทองย้อนหลังเมื่อวาน ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับหนุนจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- ความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐหลังภาษีนําเข้ารอบใหม่ระหว่างกันเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ จีนและสหรัฐกําลังประสบความยากลําบากในการกําหนดการเจรจาการค้าขณะที่วานนี้ ทรัมป์ทวีตกดดันจีนว่า ให้รีบทําข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ ไม่อย่างนั้นจะยิ่งลําบากมากขึ้นหากเขาชนะการเลือกตั้งในปีหน้าอีกสมัย
- ความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐ หลังจาก ISM ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 49.1 ในเดือนส.ค. ซึ่งหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี และเป็นระดับตํ่าสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2016
สถานการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงจนกดดันให้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 285.26 จุด พร้อมกับกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้างทั้งเงินเยน, พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมไปถึงทองคํา
ส่วนความคืบหน้าล่าสุดของ Brexit วานนี้ พรรคฝ่ายค้านของอังกฤษประสบความสําเร็จในการลงมติเข้าควบคุมกระบวนการนิติบัญญัติของรัฐสภา ทําให้วันนี้จะมีการอภิปรายร่างกฎหมายป้องกัน Brexit โดยปราศจากข้อตกลงซึ่งเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําเพิ่มขึ้น 11.73 ตัน สำหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผย Beige Bookของสหรัฐ ที่มา ylgbullion.co.th