หมดปัญหาวิธีปอกไข่ต้ม ถ้าทำตามนี้ รับรองได้กินไข่ต้มสวยๆ แน่นอน

ปัญหาที่หลายๆ บ้านมักเจอ คือการต้มไข่ จะต้มกี่นาที ถึงจะสุกพอดี จะได้ไข่สวย บางบ้านจากไข่ต้มกลายเป็นไข่ลวก ลองทำตามเค้าบอกต่อๆ กันมา ให้ต้ม 4 นาที 7 นาที ไข่ก็ยังไม่สวยปอกยากเหมือนเดิม เพราะอย่าลืมว่าการเก็บรักษาไข่นั้น แต่ละบ้านใช้อุณภูมิที่ต่างกัน บางบ้านแช่ตู้เย็น บางบ้านตั้งไว้ข้างนอก วันนี้ลองมาดูวิธีง่ายๆ และลองเอาไปปรับใช้ได้จริง

1.ต้มไข่จนสุก

ไข่ที่ปอกง่ายเริ่มต้นด้วยการต้มให้สุกอย่างถูกวิธี ซึ่งมีการแนะนำว่าให้นำไข่ที่ออกมาจากตู้เย็นโดยตรงลงในน้ำเดือดด้วยช้อนที่เจาะรู แล้วทิ้งไว้ประมาณ 14 นาที การใส่ไข่ที่นำออกจากตู้เย็นลงในน้ำเดือดแทนที่จะนำไข่ออกจากตู้เย็นและวางไว้ในอุณหภูมิห้องก่อนนำไปต้มจะช่วยให้ไข่หลุดออกมาได้อย่างหมดจดและปอกเปลือกได้ง่ายขึ้น

2.นำไข่ที่ต้มแล้วกลับลงในหม้อที่มีน้ำเย็น

เมื่อไข่สุกแล้ว ให้ทำให้สะเด็ดน้ำผ่านกระชอนและนำไปลวกในน้ำเย็น อาจจะเพิ่มน้ำแข็ง 2-3 ก้อนเพื่อทำให้ไข่เย็นลงหากต้องการ

3.ปล่อยให้เปลือกไข่กระทบกันในหม้อ

ค่อยๆ หมุนไข่กับน้ำเป็นวงกลมในหม้อ เพื่อให้ไข่ชนกัน คุณจะสังเกตได้ว่าเปลือกไข่จะเริ่มแตกอย่างเบามือ น้ำจะป้องกันไม่ให้เกิดการกระทบกันรุนแรงเกินไป น้ำจะเริ่มซึมเข้าไปในไข่ระหว่างเยื่อหุ้มเปลือกและไข่ขาว ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการปอกเปลือกในไม่กี่วินาทีต่อมา

4.เคาะไข่เข้าหากัน

การเคาะไข่เข้าหากันและชิดด้านข้าง และก้นหม้อเพื่อเพิ่มรอยแตก อย่าเคาะไข่แรงจนทำให้ไข่ขาวแตกได้ แต่พยายามให้แน่ใจว่าเปลือกไข่แตกทั่ว ยิ่งมีรอยร้าวเล็กๆ บนพื้นผิวไข่มากเท่าไร เปลือกก็จะหลุดออกมาได้ง่ายขึ้น

5.ปอกไข่

การปอกไข่เริ่มต้นตรงส่วนปลายของไข่ซึ่งมีช่องอากาศที่กว้างขึ้น แล้วค่อยๆ ลอกเศษเปลือกไข่ที่บิ่นออกจนกว่าคุณจะสามารถใช้นิ้วโป้งใส่ไว้ใต้เปลือกได้ในขณะหมุนไข่ วิธีนี้เหมือนกับเรามีเวทมนต์เพราะเปลือกไข่จะหลุดออกไปเกือบจะเป็นชิ้นเดียวโดยแทบไม่ต้องออกแรงเลย นำไข่ไปแช่ในน้ำเย็น หรือลวกในน้ำไหลแบบสั้นๆ เพื่อล้างเศษเปลือกที่เหลืออยู่ออ

เครดิต : https://www.sanook.com/women/194701/

ทำความรู้จัก ดาบพิฆาตอสูร ที่มาของเสื้อยอดฮิตตอนนี้

ดาบพิฆาตอสูร ภาษาอังกฤษคือ Demon slayer เป็นหนังสือการ์ตูนของประเทศญี่ปุ่นแนว ผจญภัย-ดาร์กแฟนตาซี

การ์ตูนชุดนี้เริ่มตีพิมพ์เป็นรายตอนในนิตยสารโชเน็งจัมป์รายสัปดาห์ มาตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 และสำนักพิมพ์ชูเอฉะได้จัดพิมพ์ในรูปแบบหนังสือการ์ตูนรวมเล่ม

หนังสือการ์ตูนชุด ดาบพิฆาตอสูร ได้มีการนำไปดัดแปลงสร้างเป็นการ์ตูนแอนิเมชั่นทางโทรทัศน์โดยสตูดิโอยูโฟเทเบิล (Ufotable) ออกอากาศระหว่างวันที่ 6 เมษายน ถึง 28 กันยายน พ.ศ. 2562

ในประเทศไทย ออกอากาศฉบับตอนซีรีส์ในช่องการ์ตูนคลับ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 หลังจากการออกอากาศทางโทรทัศน์สิ้นสุดหลัง ก็ได้มีการประกาศสร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่นภาคต่อทันที

โดยมีกำหนดจะเริ่มฉายในโรงภาพยนตร์ภายในวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2563 และกลายเป็นภาพยนตร์อนิเมะและและภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล ภาคที่ 2 ในชื่อเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร: ภาคยูคาคุ กำหนดเริ่มออกรอบปฐมทัศน์เมื่อปี พ.ศ. 2564

ป้องกัน ‘Instagram’ ยังไงไม่ให้ถูกแฮกได้ง่าย ?

- ไม่คลิก link ที่น่าสงสัย - เช็ค address ของเพจที่กำลังจะกรอกข้อมูลส่วนบุคคล - ใช้งานแอปโซเชียลที่ดาวน์โหลดจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเท่านั้น เช่น Play Store - ไม่แชร์ข้อมูลล็อกอินต่างๆ ให้แอปเธิร์ดปาร์ตี้

เมื่อไม่กี่วันผ่านมานี้ได้มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวสื่อโซเชียลมีเดียอีกครั้ง โดยเกิดขึ้นกับผู้ใช้งานอินสตาแกรม ซึ่งหลายรายถูกแฮกและออกจากระบบของตัวเอง แบบที่ไม่สามารถเข้าสู่ระบบกลับไปใช้งานได้เหมือนเดิม เนื่องจากถูกโจรไซเบอร์เข้าไปเปลี่ยนข้อมูลทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชื่อบัญชี รูปโปรไฟล์ อีเมล ไปจนถึงเบอร์โทรศัพท์ จึงเป็นเรื่องยากที่จะกู้ข้อมูลเหล่านั้นกลับมาได้

วิธีการที่เหล่าแฮกเกอร์ใช้ล้วงข้อมูลจาก Instagram

จากการให้ความเห็นของ นาเดซด้า เดมิโดวา นักวิจัยด้านความปลอดภับของแคสเปอร์สกี้ แลป เธอได้พูดถึงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า จนถึงเวลานี้ก็ยังไม่พบว่าโจรไซเบอร์จะใช้วิธีการใดในการเข้าถึงโปรไฟล์ของผู้ใช้ Instagram ส่วนใหญ่วิธีที่แฮกเกอร์เหล่านี้ใช้โจมตีมักจะทำผ่านฟิชชิ่ง

นับว่าจำนวนครั้งการแฮกยิ่งเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

จากข้อมูลจากแคสเปอร์สกี้ แลป ระบุเอาไว้ว่าในปี 2018 นี้ ผลิตภัณฑ์ที่ผิดโดย Kaspersky Lab สามารถที่จะป้องกันการพยายามโจมตีผ่านฟิชชิ่งในอินสตาแกรมได้ถึง 68,000 ครั้ง และพบข้อมูลที่น่าสนใจในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นักวิจัยของแคสเปอร์สกี้ แลป ได้ตรวจพบจำนวนการโจมตีฟิชชิ่งที่เพิ่มขึ้นมากจาก 150 ครั้ง เป็นเกือบๆ 600 ครั้งต่อวัน อีกทั้งผู้ใช้งานอินสตาแกรมนี่แหละที่เป็นช่องโหว่ให้แฮกเกอร์จ้องจะใช้ประโยชน์ ยกตัวอย่าง การกรอกข้อมูลส่วนบุคคลในเว็บฟิชชิ่ง หรือเว็บปลอม ไปจนถึงการใส่ข้อมูลส่วนตัวลงในแอปที่ไม่ผ่านการรับรอง และการใช้งานเพจที่ทำลอกเลียนแบบขึ้นมา เป็นต้น

นาเดซด้า ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า “จากความนิยมใช้งาน Instagram ที่มีผู้ใช้มากกว่าพันล้านรายนี่เองที่ทำให้ Instagram เป็นเป้าดึงดูดใจโจรไซเบอร์ เมื่อโจรไซเบอร์แฮกเข้าบัญชีผู้ใช้แล้วก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการโต้ตอบสื่อสารต่างๆ ได้ โปรไฟล์ของผู้ใช้ยังจะถูกเปลี่ยนเป็นข้อมูลสแปมและฟิชชิ่งต่อไปด้วย”

คำแนะนำการใช้งานโซเชียลเพื่อความปลอดภัย

เพื่อความปลอดภัย ทางแคสเปอร์สกี้ แลป ก็ได้มีข้อแนะนำให้ผู้ที่ใช้งานโซเชียลเป็นประจำปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ เพื่อป้องกันการถูกแฮกก่อนที่จะสายเกินไป

  • เช็ค address ของเพจที่เรากำลังจะกรอกข้อมูลส่วนตัวลงไปให้ดี
  • ไม่แชร์ข้อมูลที่ใช้ในการล็อกอินต่างๆ ลงในแอป Third Party
  • ไม่คลิก Link ที่มีความน่าสงสัย
  • ใช้งานแอปโซเชียลที่ดาวน์โหลดจากแหล่งน่าเชื่อถือ หรือไม่ได้รับการยืนยันเท่านั้น อาทิ Google Play Store

ซีอีโอ ‘Twitter’ บอก ทุกวันนี้ทำงานผ่านมือถือ ไม่ต้องพึ่งแล็ปท็อป

ซีอีโอ 'TWITTER' บอก ทุกวันนี้ทำงานผ่านมือถือ ไม่ต้องพึ่งแล็ปท็อป

ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานประเภทไหนๆ ก็ต้องมีเครื่องที่สร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้เราสามารทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา บนอุปกรณ์พกพาที่คล้ายกับเป็นหนึ่งในอวัยวะสำคัญของร่างกาย ดูอย่าง Jack Dorsey ซีอีโอหนุ่มไฟแรงจาก Twitter ที่เขาได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับการทำงานของเขาขณะที่แถลงข่าวอยู่ในซิดนีย์ ว่าเดี๋ยวนี้แจ็คทำงานทุกอย่างผ่านสมาร์ทโฟนที่เขาใช้อยู่เป็นประจำเพียงเครื่องเดียว ไม่มีแล็ปท็อปเป็นของตัวเอง

เขาเล่าให้ฟังว่าการทำแบบนั้นเป็นสิ่งที่เขาคิดว่ามันสำคัญมาก เพราะโทรศัพท์มือถือสามารถปิดแจ้งเตือนต่างๆ ได้ และจดจ่อไปที่แอปพลิเคชันเดียว จดจ่อสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ตรงหน้า เพราะมันทำให้ตัวเขาเองสามารถที่บาลานซ์ชีวิตและการทำงานได้มากขึ้น ไม่เหมือนกับตอนใช้แล็ปท็อปที่เราต้องเปิดทุกอย่าง ทำงาน จัดงานอะไรต่างๆ แทบจะพร้อมกัน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่แจ็คให้ความสำคัญยิ่งกว่าประเด็นเรื่องความปลอดต่างๆ เสียอีก

เขาคิดว่าทุกๆ อย่างมันสามารถขโมยเวลาของเราไปได้ มีเรื่องราวต่างๆ ที่ดึงเราให้เข้าไปสนใจ ฉะนั้น การทำงานแบบนี้มันจึงช่วยฝึกอะไรให้กับแจ็คได้เยอะ ตื่นเช้ามาไม่เช็คมือถือจนกว่าจะถึงเวลาทำงาน และเมื่อถึงเวลางาน การแจ้งเตือนต่างๆ ก็จะถูกตั้งค่า สิ่งที่เข้ามาก็จะมีแค่งานเท่านั้น ไม่ได้รับรู้สิ่งอื่นๆ ยิ่งตอนประชุม ก็จะปิดแล็ปท็อป เก็บมือ ให้ความสำคัญและโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ให้ความสนใจที่จะใช้เวลาร่วมกัน ถ้าการใช้แล็ท็อป ก็จะมีเรื่องโน่นเรื่องนี้มาดึงความสนใจเรา เราก็จะยิ่งเสียสมาธิ

ส่วนเรื่องของความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว แจ็คมองว่าเป็นเรื่องของแต่ละคนที่จะให้ความใส่ใจแตกต่างกัน พอใช้งานไปได้สักพัก เราก็จะรับรู้ได้เองว่าใช้เครื่องมือแบบไหนและส่งผลกับตัวเองยังไง เราเลือกที่จะปิดการแจ้งเตือน เลือกที่จะเปลี่ยนพาสเวิร์ดเป็นประจำ เลือกที่จะยืนยันตัวตันกับบัญชีของเรา มันเป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวัน ถึงมันจะยุ่งยาก แต่ก็ไม่ควรที่จะละเลย นี่ก็เป็นอีกหนึ่งมุมมองดีๆ จากซีอีโอของทวิตเตอร์

ความต้องการน้อยลง ! Apple สั่งลดการผลิต ‘HomePod’ แล้ว

ความต้องการน้อยลง ! Apple สั่งลดการผลิต 'HomePod' แล้ว

ช่วงนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอแต่ลำโพงอัจฉริยะที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานที่อยู่ตามบ้าน ไม่ว่าจะเป็น Google Assistant , Amazon Alexa หรือแม้แต่ Apple เองก็กระโดดลงมาร่วมในสนามนี้ด้วย ในชื่อ HomePod ที่มี Siri เป็นผู้ช่วยในการสั่งงาน มีราคาอยู่ที่ 329 ดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าสูงมาก

ช่วงแรกของการวางจำหน่ายนั้น HomePod มีอยู่ใน Store แค่เพียง 10 ตัวเท่านั้น แต่มียอดการสั่งจองสูงกว่าสินค้าที่มีอยู่ แต่ด้วยความที่เป็นผลิตภัณฑ์ของแอปเปิ้ลที่ขึ้นชื่อเรื่องของราคา ทำให้ Alexa และ Google Assistant ครองตลาดด้วยราคาที่ถูกกว่า ทำให้ HomePod สามารถรับส่วนแบ่งไปได้เพียง 10% เท่านั้น อีกทั้ง เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาทางแอปเปิ้ลเองก็เปิดจำหน่ายช้า จึงต้องลดการผลิตลง