แนวโน้มราคาทองคำ 5 มิ.ย. 67

ในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ปรับตัวลง ถึงแม้ว่าตัวเลขตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครจะต่ำกว่าคาด และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี

ในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำ ได้ปรับตัวลง ถึงแม้ว่าตัวเลขตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครจะต่ำกว่าคาด และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี แต่ราคาทองคำยังคงถูกกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ และการขายทำกำไรจากผู้ลงทุน กองทุน SPDR ยังคงรักษาปริมาณทองคำในการถือครองเท่าเดิม

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม:

  • การเปิดเผยจำนวนการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP และดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ค. ของ ISM

วิเคราะห์ราคาทอง: ราคาทองคำปิดตลาดต่ำกว่าเส้น SMA50 แต่ยังคงยืนเหนือระดับ 2,300-2,310 ดอลลาร์ ได้ ด้วยสัญญาณทางเทคนิคจากรายวัน MACD ที่แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวลง แต่ยังคงมีโอกาสในการฟื้นตัว

หากยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 2,337-2,340 ดอลลาร์ได้ แนะนำให้เปิดสถานะขายในระดับนี้ พร้อมกำหนดจุดตัดขาดทุนที่ 2,350 ดอลลาร์ หรือหากต้องการเก็งกำไรในช่วงราคาลง สามารถเข้าซื้อได้ในราคา 2,305-2,310 ดอลลาร์ พร้อมตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 2,300 ดอลลาร์

ข่าวราคาทองคำ 27 มกราคม 2563 (ภาคเช้า)

ราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําทะยานขึ้นจากความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เริ่มขึ้นใน ประเทศจีน หลังจากล่าสุดพบผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวเป็นรายที่ 5ในสหรัฐ

นอกจากนี้ยังมีรายงานประเทศที่พบผู้ติดเชื้อนอกจากจีนและสหรัฐอีก 9 ประเทศ อาทิ ไทย, สิงคโปร์, ฝรั่งเศส, มาเลเซีย, ญี่ปุ่น, เวียดนาม, เกาหลีใต้, เนปาล และออสเตรเลีย ทําให้ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสดังกล่าวแล้ว 80 คนจากจํานวนผู้ติดเชื้อกว่า 2,744 คน แม้ว่าจีนจะพยายามอย่าง หนักในการควบคุมการระบาด แต่ความวิตกว่าสถานการณ์การระบาดของโรคอาจยิ่งเลวร้ายลงหลังจากผ่านพ้นเทศกาลตรุษจีน ที่ชาวจีนจํานวนหลายร้อยล้านคนจะเดินทางท่องเที่ยว ทั้งภายในจีน และในต่างประเทศ เป็นปัจจัยกดดันสินทรัพย์เสี่ยงและกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคํา ประกอบกับทองคําได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้า หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ ลงนามในประกาศเพื่อปรับขึ้นภาษีนําเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าอีก 25% และขึ้นภาษีผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียมอีก 10% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 8 ก.พ.นี้ อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังการเปิดเผยดัชนี PMI รวมภาคการผลิต และภาคบริการที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน รวมถึงแรงซื้อดอลลาร์ที่อยู่ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยยังเป็นปัจจัยที่สกัดช่วงบวกของราคาทองคําเอาไว้ สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ และเกาะติดรายงานการแพร่ระบาดของ ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่อย่างใกล้ชิด
ที่มา ylgbullion.co.th

ข่าวราคาทองคำ 9 มกราคม 2563 (ภาคบ่าย)

ราคาทองคําช่วงเช้าวันนี้ เริ่มมีความผันผวนลดลง เหวี่ยงตัวในกรอบระหว่าง 1,553.60 – 1,561.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่สถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางเริ่มผ่อนคลายลง หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ แถลงการณ์ระบุว่า จะไม่ใช้มาตรการทางทหารตอบโต้การโจมตีด้วยจรวดจากอิหร่านต่อฐานทัพสหรัฐในอิรักในช่วงเช้ามืดวันก่อนหน้า โดยสหรัฐจะใช้มาตรการควํ่าบาตรต่ออิหร่านแทน ท่าทีที่อ่อนลงของผู้นําสหรัฐ ช่วยกระตุ้นแรงซื้อเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง ส่งผลให้ทองคําถูกขายทํากําไรหลังจากพุ่งแรงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังต้องจับตาสถานการณ์ระหว่างสหรัฐ-อิหร่านอย่างต่อเนื่อง เพราะประเด็นการเมืองระหว่างประเทศมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่ ธนาคารโลก (World Bank) ออกมาเตือนว่า ปี 2563 เศรษฐกิจทั่วโลกยังคงเปราะบางต่อความไม่แน่นอนทางการค้าและความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ ส่งผลให้นักลงทุนยังรอเข้าซื้อทองคําเมื่อราคาปรับตัวลงเพื่อป้องกันความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน ช่วยจํากัด Downside ของราคาทองคําในระยะนี้ ด้านแนวโน้ม Gold Spot ประเมินว่า หลังจากราคาทิ้งตัวลงส่งผลให้มุมมองเชิงบวกลดลง ทั้งนี้ ระยะสั้นหากราคาสามารถทรงตัวและพยายามสร้างฐานราคาเหนือแนวรับบริเวณ 1,553-1,552 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ส่งผลให้แรงซื้อและราคาทองอาจฟื้นตัวขึ้นในช่วงสั้น แต่แรงซื้ออาจไม่มากนักเนื่องจากสถานการณ์อิหร่าน-สหรัฐเริ่มคลี่คลาย โดยราคาอาจกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบเพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาชี้นํา สําหรับวันนี้ประเมินแนวต้านระยะสั้นในโซน 1,567-1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนํากลยุทธ์การลงทุน เน้นการซื้อขายทํากําไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยเข้าซื้อเมื่อตลาดปรับตัวลงมาไม่หลุดแนวรับโซน 1,553-1,552 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่การเปิดสถานะขายอาจพิจารณาในโซน 1,567-1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากราคายืนเหนือ 1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์)

ที่มา ylgbullion.co.th

ข่าวราคาทองคำ 4 กันยายน 2562 (ภาคเช้า)

ราคาทองย้อนหลังเมื่อวาน ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับหนุนจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • ความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐหลังภาษีนําเข้ารอบใหม่ระหว่างกันเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ จีนและสหรัฐกําลังประสบความยากลําบากในการกําหนดการเจรจาการค้าขณะที่วานนี้ ทรัมป์ทวีตกดดันจีนว่า ให้รีบทําข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ ไม่อย่างนั้นจะยิ่งลําบากมากขึ้นหากเขาชนะการเลือกตั้งในปีหน้าอีกสมัย
  • ความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐ หลังจาก ISM ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 49.1 ในเดือนส.ค. ซึ่งหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี และเป็นระดับตํ่าสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2016

สถานการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงจนกดดันให้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 285.26 จุด พร้อมกับกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้างทั้งเงินเยน, พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมไปถึงทองคํา

ส่วนความคืบหน้าล่าสุดของ Brexit วานนี้ พรรคฝ่ายค้านของอังกฤษประสบความสําเร็จในการลงมติเข้าควบคุมกระบวนการนิติบัญญัติของรัฐสภา ทําให้วันนี้จะมีการอภิปรายร่างกฎหมายป้องกัน Brexit โดยปราศจากข้อตกลงซึ่งเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําเพิ่มขึ้น 11.73 ตัน สำหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผย Beige Bookของสหรัฐ ที่มา ylgbullion.co.th

ข่าวราคาทองคำ 30 กรกฎาคม 2562 (ภาคเช้า)

ราคาทองคําวานนี้ ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยยังคงมีแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคําจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตรา ดอกเบี้ย ในการประชุมที่จะเสร็จสิ้นลงในช่วงกลางดึกของวันพรุ่งนี้ สะท้อนจาก FedWatch ของ CME ที่บ่งชี้ว่า บรรดาเทรดเดอร์คาดการณ์ว่า มีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค.โดยใน 100% นั้นถูกแบ่งเป็นคาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้ราว 75% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ค. ขณะที่อีก 25% คาดว่าจะลดดอกเบี้ยมากถึง 0.50% ในเดือนก.ค. อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของราคายังคงอยู่ในกรอบจํากัดเช่นกัน เพราะทองคําได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ หลังจากค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับตํ่าสุดรอบ 28 เดือนท่ามกลางความวิตกว่าอังกฤษอาจแยกตัวจากสหภาพยุโรป(EU)โดยปราศจากข้อตกลง

นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังในการเข้าสถานะก่อนจะทราบความชัดเจนเกี่ยวกับเฟด รวมไปถึงผลการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่จะเริ่มเปิดฉากในวันนี้ ด้านกองทุนSPDR ถือครองทองคําเพิ่ม +6.75 ตัน

สําหรับวันนี้ ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) และความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ รวมไปถึงการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อาทิ ดัชนี PCE, การใช้จ่ายและรายได้ส่วนบุคคล, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB

ที่มา ylgbullion.co.th

 

วิเคราะห์ราคาทองคำ 7 มิถุนายน 2562 (ภาคเช้า)

ราคาทองย้อนหลัง ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นอกจากราคาทองคําจะได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)แล้วนั้น ปัจจัยล่าสุดที่หนุนราคาทองวันนี้ คือ การแข็งค่าของสกุลเงินยูโร หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมตามคาด แต่ที่สําคัญคือ ECB ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของยูโรโซน สู่ระดับ 1.3% ในปีนี้ จากเดิมที่ระดับ 1.2% ส่วนในปีหน้า ECB คาดการณ์เงินเฟ้อที่ระดับ 1.4% จากเดิมที่ระดับ 1.5% ขณะที่ประธาน ECB ยืนยันว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะไม่ประสบภาวะเงินฝืด และมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถอยหลัง สถานการณ์ดังกล่าวหนุนให้สกุลเงินยูโรแข็งค่าจนกดดันให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ซึ่งเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อราคาทองคํา อย่างไรก็ดีอุปสรรคในการปรับขึ้นของราคาทองคํายังเป็นการทะบายขึ้นต่อเนื่องของตลาดหุ้นสหรัฐ ที่ยังคงได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมไปถึงรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐอาจจะเลื่อนการเก็บภาษีนําเข้าสินค้าจากเม็กซิโก จึงเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย สําหรับราคาทองวันนี้จับตาการเปิดเผยตัวเลขสําคัญในตลาดแรงงานของสหรัฐ เช่น รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง,อัตราการว่างงาน และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร

ที่มา ylgbullion.co.th

 

ข่าวราคาทองคำ 20 มีนาคม 2562 (ภาคบ่าย)

ราคาทองช่วงเช้าวันนี้ย่อตัวลงเล็กน้อย โดยระยะสั้นจะเห็นว่าราคาทองคำทรงตัวใกล้ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ ที่อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน แม้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเตรียมที่จะเดือนทางเยือนจีนเพื่อเจรจาการค้ากับรองนายกฯจีนในสัปดาห์หน้า แต่แหล่งข่าวระบุว่า จีนอาจไม่ยอมรับข้อเรียกร้ องบางอย่างจากสหรัฐ ซึ่งเป็นท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไป และระบุด้วยว่าสหรัฐยังไม่ได้ให้คำมั่นที่จะยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนแต่อย่างใด รวมทั้งปัญหา Brexit ที่มีแนวโน้มยืดเยื้อและอาจกระทบเศรษฐกิจในหลายประเทศ อย่างไรก็ดีราคาทองวันนี้ยังแกว่งตัวในกรอบ เพื่อรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) คืนนี้ โดยจะมีการเปิดเผย Economic Projections และ Dot Plot ฉบับใหม่จากเจ้าหน้าที่เฟด ท่ามกลางกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่าเฟดน่าจะส่งสัญญาณในเชิงผ่อนคลายตามเดิม จึงต้องรอความชัดเจนอีกครั้งว่าจะเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์หรือไม่ หากผ่อนคลายตามคาดจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทอง แต่หากผ่อนคลายน้อยกว่าที่คาด อาจกดดันราคาทองได้เช่นกัน ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า ราคาทองขยับขึ้นแต่ก็มีแรงขายทำกำไรสลับออกมาไม่มาก และราคาทองพยายามทรงตัวรักษาระดับไว้ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือ 1,312 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะมีผลให้ราคาทองปรับตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง โดยมีโอกาสเกิดแรงขายกลับลงมาและมีแนวรับในโซน 1,298-1,290 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำกลยุทธ์เน้นเก็งกำไรระยะสั้นได้ โดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดแนวรับ 1,298-1,290 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแบ่งขายทำกำไรหากราคาทองไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,312 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านได้สามารถชะลอการขายไปที่แนวต้าน 1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่มา ylgbullion.co.th